เหตุผลที่เลือกแพทยศาสตร์

​

“เหตุผลที่เลือกเรียนแพทย์ เพราะอยากนำเอาความรู้มาช่วยเหลือคนอื่นในแง่มุมต่างๆ จริงๆ จากพื้นฐานทางการแพทย์ก็ต่อยอดไปได้อีกไกล เมื่อมีทักษะทางการแพทย์ เราจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สุขภาพ (Well Being) ของคนไข้ดีขึ้นได้ด้วย ไม่ใช่เพียงแค่รักษาอาการเจ็บป่วย แต่ยังรวมถึงการส่งเสริมสุขภาพ ทั้งกายและใจ”  

​

สิ่งที่มองเห็นในฐานะแพทย์ด้านความงาม

​

“จะว่าไปความงามก็เป็นเหมือนการสร้างโอกาสอย่างหนึ่งให้กับตัวเองค่ะ สำหรับบางคนการทำให้ตัวเองสวยขึ้น ดูดีขึ้น คือการลงทุนในตัวเองอย่างหนึ่งด้วย เพราะเมื่อเราได้เห็นตัวเองสวยขึ้น ดูดีขึ้นได้จากการแก้ไขจุดเล็กๆ ก็ทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น ความมั่นใจนี่แหละที่เป็นสิ่งสำคัญที่ให้เราทุกคนทำอะไรสักอย่างออกมาได้ดี ความงามจึงเป็นจุดเริ่มต้นของพลังในตัวเองเช่นกัน”  

​

มุมมองของหมอมะนาวต่อความงาม

 

“จริงๆ ความงามเป็นเรื่ององค์รวม เพราะสัมพันธ์กับทั้งสุขภาพและสุขลักษณะ เกี่ยวเนื่องไปถึงการพักผ่อน อาหารการกิน การออกกำลังกาย แต่ร่างกายคนเราที่มีความหลากหลาย ก็อาจจะไม่ได้โดดเด่นไปทุกด้าน หรือทำได้ดีในทุกเรื่อง ยิ่งเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายก็ยิ่งเสื่อมถอยไปตามวัย ดังนั้นศาสตร์การชะลอวัยจึงมีความสำคัญไม่น้อย และการปรับรูปหน้าก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยทำให้ทุกคนสวยหล่อและมั่นใจขึ้นได้แม้วัยจะเปลี่ยนไป”

 

การออกแบบความงามเฉพาะบุคคล ฉบับหมอมะนาว

 

“ส่วนตัวเชื่อว่าหน้าที่ของแพทย์ความงาม คือการมองคนไข้คนหนึ่งแบบองค์รวมเช่นกัน หมอจะช่วยปรับจุดด้อยของคนไข้ให้กลายเป็นจุดเด่น แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความชอบของคนไข้ในแต่ละคน ผสานเข้ากับความเป็นไปได้ด้วยเช่นกัน อย่างการเสริมจมูกนั้น คนไข้แต่ละคนก็จะมีความชอบที่หลากหลาย บางคนชอบสไตล์เกาหลี บางคนชอบสันจมูกแบบคนตะวันตก หรือสายฝอ (ฝรั่ง) หมอก็จะให้ความสำคัญกับความชอบและสไตล์ของแต่ละคนก่อน จึงจะมองหาความเป็นไปได้ร่วมกัน ว่าโครงหน้าของคนไข้คนนั้น เหมาะสมกับรูปแบบไหนมากที่สุด” 

 

เคล็ดลับการดูแลตัวเองของหมอมะนาว

 

“ด้วยความที่มองว่าความงาม คือเรื่องการดูแลสุขภาพ (Well Being) ก็เลยจะให้ความสำคัญกับอาหารการกิน การพักผ่อน และการออกกำลังกาย แต่สิ่งหมอจะทำคู่กันคือการดูแลทุกส่วนของใบหน้าอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่การทาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว ทำเลเซอร์ผิวทุกๆ เดือน ส่วนทุกๆ 6 เดือนก็จะทำ HIFU และ BOTOX และทุก 1 - 2 ปี ก็จะเติมฟิลเลอร์ หมอเองก็เหมือนคนไข้ค่ะ เราเชื่อในพลังของความงามในการเสริมความมั่นใจ อีกอย่างป้องกันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ”